ประวัติความเป็นมา…

กว่าจะมาเป็นแบรนด์  Micro Wash-V

กว่าจะมาเป็นแบรนด์ผลิตภัณฑ์ล้างผักและผลไม้ไมโครวอช-วี  เจ้าของผลิตภัณฑ์ คือ นายบุญเลี้ยง  เศรษฐกสิวิทย์ จบปริญญาตรี วิทยาศาสตรบัณฑิต คณะเกษตร สาขากีฏวิทยา ซึ่งเป็นสาขาเกี่ยวกับแมลงศัตรูพืช  ยาป้องกันกำจัดศัตรูพืชและวิธีการป้องกันกำจัดศัตรูพืช จากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน พ.ศ. 2514 ปัจจุบันดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ บริษัท อากรีว่า จำกัด ทำธุรกิจจำหน่ายสารเคมีเกษตรและเมล็ดพันธุ์พืช ในอดีตเคยทำงานเป็นผู้บริหารในบริษัทต่างประเทศจาก อังกฤษ  ฝรั่งเศส และเยอรมัน ซึ่งเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายเคมีเกษตร เช่น ยาฆ่าแมลง ยากำจัดเชื้อรา ยากำจัดวัชพืช ฯลฯ มีประสบการณ์การทำงานธุรกิจเคมีเกษตร เป็นเวลานานกว่า 30 ปี และเคยได้รับเลือกเป็นประธาน Code of Conduct (หลักการใช้สารเคมีอย่างถูกวิธีและปลอดภัย) ของสมาคมธุรกิจเคมีเกษตร ประเทศไทย จึงมีความรู้ด้านสารเคมีกำจัดศัตรูพืชและเข้าใจพิษของสารเคมีกำจัดศัตรูพืชที่ตกค้างในผักและผลไม้เป็นอย่างดี ซึ่งสารเคมีกำจัดศัตรูพืชเหล่านั้นไม่ปลอดภัยต่อผู้บริโภค และพบว่าผู้บริโภคที่รับประทานผักและผลไม้ที่สะสมอย่างยาวนานทำให้ป่วยเป็นโรคต่าง ๆ จำนวนมาก   

ย้อนกลับไปเมื่อ 40 ปีก่อน ธุรกิจเคมีเกษตรในประเทศไทย ซึ่งเกี่ยวกับการจำหน่ายยาฆ่าแมลง ยากำจัดเชื้อรา และยากำจัดวัชพืช มีบริษัทต่างชาติที่มาทำธุรกิจเคมีเกษตรยุคแรก ๆ ได้แก่  เชลล์, เอสโซ่, ยูเอสซัมมิท, เชฟรอน และบริษัทที่เกี่ยวข้องกับเคมีภัณฑ์ต่าง ๆ เช่น ซีบ้า-ไกกี้ , ไอ ซี ไอ, เฮิกซ์, ดูปองท์ ฯลฯ ซึ่งบริษัทเหล่านี้ได้ทำธุรกิจด้านน้ำมัน ด้านเคมีภัณฑ์ต่าง ๆ และควบคู่ไปกับทำธุรกิจด้านเคมีเกษตร  เนื่องมาจากสารเคมีเกษตรผลิตมาจากของเสียจากโรงกลั่นน้ำมันและของเสียจากโรงงานผลิตยาคนและสัตว์ แล้วนำของเสียเหล่านั้นมาทำการวิจัยและพัฒนาเป็นสารเคมีเกษตรกำจัดศัตรูพืช ซึ่งพบว่าสารเคมีกำจัดศัตรูพืชต่าง ๆ เหล่านี้จะมีโครงสร้างที่มี Benzene Ring (มีคาร์บอน 6 ตัว เชื่อมกันเป็นวงแหวน) เป็นองค์ประกอบหลัก จากนั้นก็นำสารประเภทต่าง ๆ เช่น สารประเภทคลอรีน ฟอสฟอรัส ฟลูออไรด์ ซัลเฟอร์ กลุ่มสารเมทิล และกลุ่มสารไนเตรท มาผสมเป็นองค์ประกอบจนทำให้เกิดสารเคมีหลายกลุ่ม ได้แก่ กลุ่มสารออร์กาโนคลอรีน กลุ่มสารออร์กาโนฟอสเฟต กลุ่มสารคาร์บาเมท และกลุ่มสารไพรีทรอยด์ กลุ่มสารเคมีเหล่านี้สามารถออกฤทธิ์ในการกำจัดศัตรูพืชได้ 

       ประเทศไทยอยู่เขตร้อนชื้น การปลูก พืช ผัก และผลไม้ ปลูกได้ตลอดปี จึงทำให้การแพร่ระบาดของโรคและแมลงต่าง ๆ เกิดขึ้นตลอดเวลาและค่อนข้างรุนแรง จึงจำเป็นต้องใช้ยากำจัดศัตรูพืชและฉีดพ่นซ้ำหลายครั้งเป็นระยะเวลานานจนกว่าจะเก็บเกี่ยว จากข้อมูลการวิจัยและทดสอบการหาสารเคมีที่ตกค้างในผักและผลไม้จากหน่วยงานภาครัฐและเอกชน  พบว่าสารเคมีที่ตกค้างในผักและผลไม้หลายชนิดมีสารตกค้างเกินค่ามาตรฐาน MRL จึงไม่ปลอดภัยต่อผู้บริโภค

ประเภทสารเคมีเกษตรและกำจัดศัตรูพืช มี 2 ประเภท คือ ประเภทถูกตัวตาย และประเภทดูดซึมโดยเฉพาะสารประเภทดูดซึมจะถูกดูดซึมเข้าไปในเซลล์ ส่วนต่าง ๆ ของพืช เช่น ราก ลำต้น ดอก ผล และมีโครงสร้างทางเคมีที่ซับซ้อน ซึ่งไม่สามารถทำลายโครงสร้างของสารเคมีที่เป็นพิษเหล่านี้ด้วยการล้างน้ำเปล่า หรือใช้ความร้อนจากการหุงต้ม โดยธรรมชาติแล้วพืชผักและผลไม้จะสร้างเอนไซม์ขึ้นมาภายในต้นพืชเอง เพื่อย่อยสารเคมีหลังจากที่พืชถูกฉีดพ่น แต่การสร้างเอนไซม์ของพืชขึ้นมานั้น มีปริมาณไม่มากพอที่จะสลายสารเคมีได้หมดในระยะเวลาอันสั้น การสลายสารเคมีด้วยเอนไซม์ของพืชให้หมดไปหลังจากฉีดพ่นสารเคมี จะต้องใช้ระยะเวลานาน สารเคมีบางชนิดใช้ระยะเวลาสลาย 5-7 วัน และบางชนิดต้องใช้ระยะเวลาสลายนานถึง 10-15 วัน ฉะนั้นเกษตรกรจะต้องทิ้งระยะเวลาตามข้อกำหนดของสารเคมีแต่ละชนิดก่อนการเก็บเกี่ยวจึงจะปลอดภัยต่อผู้บริโภค แต่ในสภาพความเป็นจริง เกษตรกรมักจะเก็บเกี่ยวก่อนเวลาที่กำหนด จึงทำให้มีสารเคมีตกค้างในผักและผลไม้ดังกล่าวเมื่อถึงมือผู้บริโภค

จึงมีแนวคิดว่า จะทำอย่างไรจึงจะสามารถสร้างผลิตภัณฑ์ที่สามารถสลายโครงสร้างสารเคมีในผักและผลไม้ รวมทั้งฟอร์มาลีนที่ตกค้างในอาหารได้ ในระยะเวลาอันสั้น ฉะนั้นในปีพ.ศ. 2561 ได้ไปร่วมงานเปิดบ้านของ สวทช. จึงได้มีโอกาสพูดคุยกับทีมวิจัยศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ บริษัทจึงได้ปรึกษาและทำโครงการวิจัยนำเสนอไปที่ สวทช.ศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ โดยมีวัตถุประสงค์ของงานวิจัยผลิตภัณฑ์ที่มีคุณสมบัติดังนี้

1. ผลิตภัณฑ์สามารถสลายโครงสร้างสารเคมีของยากำจัดศัตรูพืชที่ตกค้างในผักและผลไม้ได้ในระยะเวลาอันสั้น

2. ผลิตภัณฑ์ต้องมีอนุภาคระดับนาโน

3. ผลิตภัณฑ์จะต้องปลอดภัยต่อผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม

ซึ่งนักวิจัยได้ค้นคว้าและพัฒนาสูตรทดลอง (Formulation) มากกว่า 60 สูตร ต้องใช้ระยะเวลาวิจัยนานกว่า 2 ปี จึงได้คุณสมบัติของผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ ประสิทธิภาพตามวัตถุประสงค์ อีกทั้งได้รับใบอนุญาตจาก อย. ในการผลิตและการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ ปี พ.ศ. 2564 ขณะเดียวกันได้มีการทดลองใช้ผลิตภัณฑ์กับกลุ่มผู้บริโภค 60 คน เพื่อสอบถามเรื่องประสิทธิภาพและความพึงพอใจ จากนั้นบริษัทได้เปิดตัวสินค้าในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2565

มั่นใจ  ปลอดภัย ใช้สะดวก ผลิตภัณฑ์ล้างผักและผลไม้ MicroWash-V